เครื่องปรับอากาศรุ่นใหม่ลดการใช้พลังงาน

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในบ้านได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับความต้องการและนำเสนอสิ่งใหม่ ๆ เพื่อสร้างแรงจูงใจแก่ผู้บริโภค ผู้ผลิตที่สามารถพัฒนาเทคโนโลยีได้ถูกจริตผู้บริโภคก็สร้างยอดขายได้เหนือกว่าคู่แข่ง ปัจจุบันเครื่องปรับอากาศต้องมีอยู่ทุกบ้านอย่างน้อย 1 เครื่อง เนื่องจากสภาพอากาศของไทยที่ร้อนแรงอย่างทวีความรุนแรงเพราะปัญหาโลกร้อน ยามค่ำคืนที่ควรเย็นสบายก็เปลี่ยนไป เพราะอาคารบ้านเรือนสะสมความร้อนตลอด 6 ชั่วโมง (ตั้งแต่เที่ยงวันถึงตอนเย็น) ห้องนอนเป็นจุดที่ติดตั้งเครื่องปรับอากาศเยอะที่สุด เพื่อความหลับสบายและตื่นอย่างสดใสในยามเช้า การซื้อเครื่องปรับอากาศและจ่ายค่าไฟทุกเดือนแลกกับความสดชื่นเมื่อตื่นนอน นับเป็นการแลกเปลี่ยนที่คุ้มมูลค่า

เครื่องปรับอากาศ

หากห้องพักของคุณติดตั้งเครื่องปรับอากาศที่สภาพภายนอกดูมีอายุการใช้งานนานกว่า 5 ปีขึ้นไป ควรเตรียมความพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงได้แล้ว เพราะเครื่องปรับอากาศเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้พลังงานมหาศาล หากดูแลอย่างผิดวิธีอย่างต่อเนื่อง ส่งผลต่อสุขภาพของอุปกรณ์ทำให้เกิดการสิ้นเปลืองพลังงานแน่นอน ในอนาคตอีก 5 ปี คุณต้องจ่ายค่าไฟฟ้ารายเดือนที่สูงอย่างน่าตกใจ เปรียบเทียบโดยตัดค่า FT แล้วก็เห็นว่า อัตราการใช้ไฟสูงขึ้นตามอายุการใช้งาน การลงทุนเปลี่ยนเครื่องปรับอากาศใหม่ทุก 5-10 ปี นับเป็นวิธีลดการใช้พลังงานที่รวดเร็ว เพราะเทคโนโลยีใหม่ ๆ จะมาพร้อมกับการลดการใช้พลังงานไฟฟ้าด้วย บนฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ก็มีข้อมูลให้ศึกษาและเปรียบเทียบ เว็บบอร์ดข้อมูลเกี่ยวกับการประหยัดพลังงานด้วยเครื่องปรับอากาศ เป็นตัวช่วยชั้นดีก่อนจะตัดสินใจระหว่างบำรุงรักษาเครื่องปรับอากาศเดิมหรือซื้อใหม่
ก่อนจะซื้อ

เครื่องปรับอากาศ

ใหม่ควรปรึกษาผู้จำหน่ายก่อน เพราะทิศทางของห้องเป็นปัจจัยสำคัญอย่างมาก เช่น ห้องขนาดพื้นที่ 20 ตารางเมตร เครื่องปรับอากาศขนาด 12,000 BTU ไม่สามารถสร้างและกระจายความเย็นได้ทั่วถึงแน่นอน เพราะห้องสะสมความร้อนตั้ง 6 ชั่วโมง ควรเลือกขนาด BTU ไม่น้อยกว่า 15,000 BTU และเสริมด้วยฉนวนกันความร้อนภายในห้อง และเคลียร์ข้าวของให้เป็นสัดส่วนเพื่อการไหลเวียนของอากาศที่ดี เป็นต้น เมื่อตัดสินใจได้ว่าจะซื้อเครื่องปรับอากาศควรสำรวจพื้นที่ซึ่งจะติดตั้งให้ละเอียดเพื่อคำแนะนำที่ดีสำหรับการติดตั้ง เพราะช่างแอร์จะแนะนำสิ่งที่เหมาะสมสำหรับคุณ